คาดกลุ่มแบงก์ Q1 กำไรแผ่ว เหตุตั้งสำรองสูง-เชื่อทั้งปียังเติบโต

คาดกลุ่มแบงก์ 18

คาดผลกำไรกรุ๊ปธนาคารไตรมาสแรกปี 66 ชะลอจากการตั้งสำรองในชั้นสูง ขณะตลอดปีโบรกเกอร์ประเมินกรุ๊ปแบงค์ผลกำไรจะยังเติบโตได้ตลอด

เศรษฐศาสตร์  ผลในทางที่ดีจากแนวโน้มอัตราค่าดอกเบี้ยขาขึ้น ช่วยทำให้ NIM ปรับเพิ่ม ทั้งการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบช่วยทำให้สินเชื่อและก็รายได้ค่าธรรมเนียมกลับมาฟื้นเจริญ โบเกลื่อนกลาดฯ ส่วนมากก็เลยให้น้ำหนัก “มากยิ่งกว่าตลาด” ชู KBANK และก็ BBL เด่นสุดของกรุ๊ป บล.เมย์ธนาคาร (เมืองไทย) หรือ บล.เมย์ธนาคารฯ มีมุมมองบวก หุ้นเด่น BBL รวมทั้ง KKP เนื่องจากว่าเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกรุ๊ปธนาคารสำหรับเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาสแรกปี 66 คาดว่าจะมีเซอร์ไพรส์เชิงบวกจากการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวนไม่ใช่น้อยแล้วก็ NIM ที่มากขึ้น ประเมินผลกำไรปี 66 ของกรุ๊ปแบงค์จะเติบโต 12% จากปีกลาย จากเศรษฐกิจไทยฟื้นและก็แนวโน้มเชิงบวกจากอัตราค่าดอกเบี้ยขาขึ้น คาดว่า NIM จะต่ำลงไตรมาสก่อน จากค่าธรรมเนียม FIDF ที่สูงขึ้นไตรมาสแรกปี 66 รวมทั้งฟื้นไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี 66 นอกนั้น ยังถูกใจ KKP ที่มีรายได้เติบโตแกร่งแล้วก็ราคาหุ้นน่าดึงดูด จังหวะที่ราคาหุ้นหล่นจากความหนักใจใจความสำคัญประสิทธิภาพทรัพย์สินนับว่าเป็นจังหวะสะสมเพิ่มด้วยเหตุดังกล่าว บล.เมย์ธนาคารฯ คาดว่าผลกำไรรวมไตรมาสแรกปี 66 ของกรุ๊ปแบงค์จะอยู่ที่ 4.37 หมื่นล้านบาท ต่ำลง 1% จากปีกลาย แต่ว่ามากขึ้น 33% จากไตรมาสก่อน ประเมิน TTB แล้วก็ BBL มีลัษณะทิศทางที่จะรายงานกำไรทั้งสิ้นไตรมาส 1 เติบโตอย่างเข้มแข็งที่ 19% แล้วก็ 15% เทียบเคียงปีกลายเป็นลำดับ ด้วยเหตุว่า NII เติบโตอย่างแกร่ง ในด้านของเมื่อเทียบเคียงไตรมาส คาดผลกำไรของ KBANK รวมทั้ง KKP คงจะฟื้นแรงจากเงินลงทุนสินเชื่อที่ลดน้อยลงของ KBANK ขณะ KKP ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม สินเชื่อมีทิศทางทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะ NIM มีทิศทางต่ำลง เหตุเพราะค่าธรรมเนียม FIDF ที่สูงขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้ และก็ Non-NII คงจะยังคงอ่อนแอตามการเจริญเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งกิจกรรมในตลาดทุนที่ชะลอตัว โดยรวมแล้ว PPoP มีลัษณะทิศทางเติบโต 7% เปรียบเทียบปีกลาย นำโดย BBL (มากขึ้น 22% จากการเจริญเติบโตของรายได้ที่อดทน)

คาดกลุ่มแบงก์ 18

ขณะอัตราส่วนสินเชื่อไม่มีคุณภาพของทั้งยังกรุ๊ปคาดว่าจะมากขึ้น 7bps จากไตรมาสก่อนเป็น 3.74% ในตอนที่เงินลงทุนสินเชื่อคงจะยังคงมากขึ้นที่ 1.4% ในไตรมาสแรกปี 66 จาก 1.2% ในไตรมาสแรกปี 65

เศรษฐศาสตร์  โดยประสิทธิภาพทรัพย์สินที่อ่อนแอคงจะมาจากสินเชื่อ SME รวมทั้งรายย่อย ช่วงเวลาที่สินเชื่อธุรกิจยังคงกล้าแกร่ง โดยรวมแล้วคาดว่าเงินลงทุนสินเชื่อจะมากขึ้นจากปีกลาย โดยคาด NIM ดียิ่งขึ้นหนุนผลกำไรฟื้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 66 เป็นต้นไป ด้วยเหตุว่า NIM ของกรุ๊ปแบงค์มีทิศทางน้อยลงนิดหน่อยจากไตรมาสก่อนเปรียบเทียบไตรมาสแรกปี 66 แต่ว่าคิดว่า NIM จะเบาๆมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 คาดว่าผลกำไรของกรุ๊ปแบงค์จะเติบโต 12% แล้วก็ 9% เทียบเคียงปีกลาย ในปี 66-67 คาด BBL จะส่งผลประกอบกิจการปี 66 เติบโตสูงสุด 20% และก็ตามด้วย KBANK ที่ 19% หรือ บล.กรุงศรีฯ ดู BANKING SECTOR ชี้แนะ “POSITIVE” เพราะเหตุว่าจากฐานะสภาพคล่องและก็องค์ประกอบที่เหนือกว่า บล.กรุงศรีฯ อาจจะมุมมองว่าปัญหาจาก SVB จะส่งผลเสียจำกัดต่อระบบแบงค์ไทย มั่นใจว่าสภาวะแห่เบิกเงิน (bank run) ในสหรัฐอเมริกา บางทีอาจจะนับว่าเป็น wake-up call ให้แบงค์ไทยที่จะพินิจพิเคราะห์เพิ่มอัตราค่าดอกเบี้ยเงินออม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบัญชี CASA ปีนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวพันโดยตรงและก็จะได้รับผลพวงทางอ้อมบางส่วนบล.กรุงศรีฯ ยังคงคิดว่าการที่ SVB ล้มคงจะก่อให้เกิดผลกระทบในวงจำกัดต่อระบบแบงค์ไทย เพราะเหตุว่าธนาคารชาติแจกแจงแล้วว่าไม่มีแบงค์ไทยแห่งไหนที่มีการทำธุรกรรมโดยตรงกับ SVB แม้กระนั้น บางครั้งก็อาจจะได้ผลกระทบทางอ้อมในด้านของภาวการณ์ตลาด แต่ว่าน่าจะเป็นผลพวงไม่ร้ายแรงพอๆกับปี 2008 ข้างหลังการล่มสลายของ Lehman Brothers เพราะว่า SVB มีขนาดทรัพย์สินเพียงแค่ US$2.12 แสนล้าน คิดเป็นเพียงแต่ 0.9% ของทรัพย์สินรวมในระบบ แบงค์ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง 0.9% ของ GDP สหรัฐอเมริกา เพราะว่า SVB จัดเป็นแบงค์ที่ใหญ่ เป็นชั้นที่ 16 ในปีที่ผ่านมา จัดว่าเล็กมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับ Lehman Brothers ซึ่งอยู่ใน top 5ของแบงค์สหรัฐอเมริกา ในปี 2007 ดังนี้ เนื่องจากว่ากว่า 70% ของทรัพย์สินสภาพคล่องเป็นการลงทุนใน UST และก็ตราสารหนี้สินจำพวกอื่นๆโดยเหตุนี้ ผลขาดทุนที่ยังไม่รับทราบของการลงทุนพวกนี้ซึ่งอยู่ในรายการทรัพย์สินคอยวิธีขายที่เกิดขึ้นภายหลังที่ Fed ปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยหลายรอบแล้วก็ความไม่คล้ายคลึงของอายุตราสารหนี้สิน (maturing mismatch) เป็นต้นสายปลายเหตุสำคัญเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ทำให้ SVB ประสบเจอกับปัญหา เวลาเดียวกัน แบงค์ขนาดใหญ่ของไทยมี profile สภาพคล่อง แล้วก็องค์ประกอบพอร์ตที่เหนือกว่า โดยมีรูปทรงทรัพย์สินสภาพคล่องสูงต่อเงินออมอยู่ที่ 37.4% รวมทั้งเกือบจะ 60% ของทรัพย์สินสภาพคล่องเป็นเงินสด แล้วก็การกู้ยืมระยะสั้นระหว่างแบงค์ในตลาดเงินตรา ซึ่งมีความหมายว่าแบงค์ไทยมีความยืดหยุ่นมากยิ่งกว่าและก็ต่อกรกับการไหลออกของเงินออมได้ดีมากว่าสภาวะ Bank run ในสหรัฐอเมริกา บางครั้งอาจจะก่อให้เกิดการขึ้นดอกเงินออมของแบงค์ไทย

แนะนำเศรษฐศาสตร์ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย :  ไทยเอาด้วย! สื่อเผยอาเซียนจำบทเรียนรัสเซีย เล็งลดพึ่งดอลลาร์ใช้สกุลเงินท้องถิ่นแทน