สธ.เปิดการประชุมระดับนานาชาติรับฟังเสียงเยาวชน ตั้งเป้ายุติ “เอดส์” ปี 73
“สาธิต” รัฐมนตรีช่วยว่าการสธ.ร่วมเปิดการสัมมนา “Asia-Pacific Youth Forum” ฟังความเห็นเยาวชน เพื่อหาวิถีทางจบปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่องให้หมดไปด้านในปี 2573
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับ นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ แล้วก็ นายโทฟิก บักคาลิ รักษาการผู้อำนวยการ UNAIDS ประจำภูมิภาคทวีปเอเชียรวมทั้งแปซิฟิค ร่วมเปิดการสัมมนา Asia-Pacific Youth Forum: Putting Young Key Populations first to end AIDS by 2030 โดยมี นพ.ความรอบรู้ เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนเยาวชน รวมทั้งผู้แทนภาครัฐจากภูมิภาคทวีปเอเชียแล้วก็แปซิฟิค 22 ประเทศ ดังเช่น ไทย บังกลาเทศ บรูไนดารุสซาลุกลาม เขมร จีน ฟิจิ ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย ประเทศอิหร่าน ประเทศญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย มองดูโกเลีย เมียนมาร์ เนปาล ประเทศปากีสถาน ขว้างปัวนิวกีนี ประเทศฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ ศรีลังกา ติเตียนมอร์-เลสเต และก็เวียดนาม ร่วมสัมมนาทั้งยังแบบ on-site แล้วก็ online รวม 75 คน ดร.สาธิต พูดว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ขับการทำงานเกี่ยวกับโรคภูมิคุมกันบกพร่องในด้านต่างๆทั้งยังการพัฒนาของใหม่การตรวจวิเคราะห์, ขยายการให้บริการให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย โดยยิ่งไปกว่านั้นเยาวชนซึ่งนับว่าเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ, การจัดการกับปัญหาความแตกต่าง การตีตรา รวมทั้งการเลือกปฏิบัติ, ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสังคมสำหรับเพื่อการวางนโยบายรวมทั้งการให้บริการในทุกระดับ เพื่อจัดการกับปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่องรวมทั้งนำมาซึ่งการหยุดปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่องให้หมดไปด้านในปี 2573
ซึ่งจากข้อมูลของ UNAIDS พบว่าวัยรุ่นรวมทั้งเยาวชนทั้งโลกติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ราวๆ 1 ใน 4 ของผู้ติดโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องรายใหม่ในทวีปเอเชียและก็แปซิฟิคเป็นกลุ่มวัยรุ่น นอกเหนือจากนั้น ข้อมูลที่ได้รับมาจากองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เยาวชน 1 ใน 20 คน ติดโรคติดต่อทางเพศสมาคมทุกปี ดร.แสดง กล่าวเหตุว่า การสัมมนาวันนี้เน้นที่จะยอมรับฟังข้อคิดเห็นรวมทั้งให้โอกาสให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมสำหรับในการเคลื่อนการหยุดปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่อง ซึ่งสำหรับเพื่อการสัมมนาเมื่อวานนี้ มีผู้แทนเยาวชนในภูมิภาคทวีปเอเชียรวมทั้งแปซิฟิค กว่า 22 ประเทศ ได้ด้วยกันสะท้อนปัญหารวมทั้งแลกประสบการณ์ รวมถึงระดมความคิดเห็นเพื่อปิดช่องว่างแล้วก็จัดการกับปัญหาโรคภูมิคุมกันบกพร่องในกรุ๊ปเยาวชน โดยมีความเห็นที่น่าดึงดูด เช่น สร้างเสริมการมีส่วนร่วมและก็ความเป็นหัวหน้าของคนวัยหนุ่มสาวสำหรับการสนองตอบต่อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง, เน้นย้ำการติดต่อสื่อสาร/รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโปรแกรมไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง, สิทธิทางเพศและก็สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์สำหรับเยาวชน, จัดให้มีการเข้าถึงบริการไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องอย่างทัดเทียมและก็สบายรวมทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัด, ปรับปรุงแก้ไขบริการให้ล้ำยุค, ปฏิวัติความเลื่อมใสเพื่อแก้ไขปัญหาการตีตราแล้วก็การเลือกปฏิบัติในครอบครัวและก็โรงเรียน, ลงทุนสำหรับในการสร้างเสริมความแข็งแรงและก็ความยั่งยืนมั่นคงของหน่วยงานที่นำโดยเยาวชน ฯลฯ ตอนที่ผู้แทนจากภาครัฐที่ร่วมอภิปราย ได้แสดงความเอาจริงเอาจังรวมทั้งเสนอความบากบั่นสำหรับการปกป้องรักษาคนรุ่นหลังให้ไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องและก็ผลพวงอื่นๆรวมทั้งมุ่งมาดว่าโครงข่ายเยาวชนในภูมิภาคทวีปเอเชียและก็แปซิฟิค จะเป็นพลังสำคัญสำหรับการเคลื่อนแก้ไขโรคภูมิคุมกันบกพร่อง โดยไม่ทิ้งคนไหนกันแน่ไว้ด้านหลัง
