ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ต้อนรับฤดูหนาวด้วยเมนูวินเทอร์เจอร์นี

ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ต้อนรับฤดูหนาวด้วยเมนูวินเทอร์เจอร์นี

อาหาร “ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน” โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ต้อนรับฤดูหนาวกับอาหารโมเดิร์นไทยไฟน์ไดนิ่ง ด้วยเมนูวินเทอร์เจอร์นี 16 serving จากเชฟระดับมิชลินสตาร์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ต้อนรับฤดูหนาวด้วยเมนูพิเศษ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างเชฟระดับมิชลินสตาร์ “เชฟเฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน” และ “หัวหน้าเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์” เพื่อเล่าเรื่องราวการรับประทานอาหารอร่อยจากประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว และดื่มด่ำกับรสชาติอันโดดเด่นของอาหารไทย ญี่ปุ่น และ ยุโรป ของเชฟเฮนริค โดยนำวัตถุดิบและส่วนผสมในการประกอบอาหารคุณภาพชั้นเยี่ยมที่มีให้เลือกสรรในช่วงฤดูหนาว นำเสนอออกมาเป็นเมนูมื้อพิเศษที่เหมาะกับฤดูกาลนี้ เมนูฤดูหนาว (Winter Journey Menu) ทั้ง 16 serving เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยหรือที่ทุกท่านรู้จักกันดีในนาม “สตรีตฟู้ด” อันมีชื่อเสียงของ สระบัว บาย กิน กิน ทั้งหมด 8 serving ให้บริการที่เลาจ์ และตามด้วยเมนูที่ 9 “ต้มยำกุ้งเส้นเต้าหู้” เสิร์ฟพร้อมกับเมนู “กุ้งสี่สหาย” ที่ประกอบด้วย ซุปล็อบสเตอร์บิสก์เทมปุระ ขนมปังหน้ากุ้ง ข้าวเกรียบกุ้ง และกุ้งแพทอดกรอบ เมนูที่ 10 คือ “สลัดส้มเซวิเช่หอยเชลล์ฮอกไกโด” ที่คลุกเคล้าด้วยน้ำยำปรุงสดถึงเครื่องสไตล์ไทย เมนูที่ 11 “ไข่ตุ๋นปลาอินทรีย์รมควันและซอสมิโซะ” รสชาติกลมกล่อม เมนูที่ 12 “ปลาไดโนเสาร์เปรี้ยวหวาน” ที่ใช้เทคนิคมาทำให้หนังปลากรอบเหมือนกับหนามไดโนเสาร์ ข่าวอาหาร ทานคู่กับซอสเปรี้ยวหวาน เมนูที่ 13 “ปลาหิมะซอสลาวาแกงเขียวหวาน” เนื้อปลาหิมะนึ่งสีขาวนวลรูปทรงโดมสอดไส้ซอสแกงเขียวหวานรสชาติกลมกล่อมสไตล์ไทยดั้งเดิม ตามด้วยเมนูที่ 14 “ขาเป็ดกงฟีสไตล์ฝรั่งเศสผัดกะเพรา” เสิร์ฟพร้อมซอสถั่วลันเตา ไข่ดาวนกกระทารูปทรงขนมครก และข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ ส่งท้ายมื้ออาหารอันน่าจดจำนี้ด้วยเมนูของหวานสไตล์ยุโรปสองเมนู โดยของหวานจานแรก คือ “ไอศกรีมกะทิผสมตะไคร้และเมอแรงค์มะนาว” ซึ่งมีหน้าตาเสมือนภูเขาน้ำแข็งที่สวยงามและขาวสะอาด ให้รสสัมผัสหวานละมุนละลายในปาก ตามด้วยอีกเมนู “ซูเฟลพิสตาชิโอไอศกรีมใบเตย” เสิร์ฟพร้อมทองม้วนพิสตาชิโอ ปิดท้ายมื้อค่ำอันสมบูรณ์แบบนี้ด้วย “เปติ โฟร์” (petit four) ขนมหวานชิ้นเล็กที่ออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์และสวยงาม

แนะนำข่าวอาหาร อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : “หมูเถื่อน” ยืดเยื้อ สะเทือนความมั่นคงทางอาหารประเทศ